Welcome to Fortress of Santa Teresa Uruguay | คนไทยในต่างแดน |

Fortress of Santa Teresa Uruguay

ป้อมปราการแห่งนี้ไม่มีอะไรนอกจากป้อมปราการเก่าที่ใช้สำหรับสงครามและโลจิสติกส์ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Santa Teresa

และล้อมรอบไปด้วยต้นปาล์มและเนินทรายและมีทิวทัศน์อันงดงามของมหาสมุทรแอตแลนติก
สถานที่ใหญ่จากทุกมุมมอง อาจกล่าวได้ว่ามันตระหง่านแล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโปรตุเกสสเปนอังกฤษโจรสลัดและครีโอโล
สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของผู้มาเยือนคือความสูงของผนังและความสวยงามของกำแพง ซึ่งแลดูเก่าแก่แต่งดงามที่ติดกับทะเล
กำแพงใหญ่ถูกสร้างห่อล้อมสถานที่สวยงามสำหรับสงครามด้านใน กำแพงที่สวยงาม สร้างด้วยอิฐทีละก้อนแลดูแข็งแรง
ประตูขนาดใหญ่ด้านหน้า ที่สร้างหลักฐานอย่างชัดเจนว่าสถานที่นี้เคยเป็นป้อมปราการณ์
ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งไม่มีใครสามารถเข้าไปได้โดยไม่ได้รับคำเชิญอย่างแน่นอน
ป้อมเริ่มสร้างขึ้นโดยชาวโปรตุเกสใน พ.ศ. 1762 แต่ถูกสร้างเสร็จโดยชาวสเปนหลังจากสงครามจบสิ้นไปไม่นาน
ที่นี้เคยเป็นจุดเชิงกลยุทธ์ในแผนที่ของวันนั้น จากนั้น viceroy -don Pedro Antonio de Cevallos Cortés y Calderón ได้ทำการตัดสินใจว่าควรจะกลายเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาอาณาจักรสเปนในภูมิภาค
การรักษาจักรวรรดิ
จุดมุ่งหมายนี้บรรลุผลโดยเร็วที่สุดเท่าที่การก่อสร้างได้รับการถ่ายจากชาวโปรตุเกสหลังจากนั้นก็มีการโต้เถียงอย่างต่อเนื่องกับบรรดาผู้ที่ต้องการเข้ายึดครอง
หลังจากสงครามใหญ่ (ความขัดแย้งระหว่างประเทศใน Río de la Plata และอำนาจระหว่างประเทศที่พวกเขามีความสัมพันธ์ระหว่าง 1839 และ 1851)
สถานที่แห่งนี้ถูกจะทำการให้เป็นที่ทำการฝั่งศพ และถูกปล่อยปละละเลยไม่มีการดูแล
จนปี 1928 ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบัน
สำหรับวัตถุประสงค์ดังกล่าวถูกขัดแย้งด้วย นักโบราณคดี Horacio Arredondo และเขาจำเป็น
ที่จะเริ่มงานกู้กลับคืนและ ค้นหาซากศพที่อาจเป็นพยานหลักฐานของวันนั้น

นอกจากนี้เขายังมีความคิดที่ในการปลูกไม้ในพื้นที่เพื่อให้เนินทรายที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่อาจบุกเข้าสู่สมบัติอันยิ่งใหญ่และมรดกทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่เราสามารถชื่นชมได้ในทุกวันนี้
การท่องเที่ยวสำหรับทุกคน
ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้าเข้า ได้รู้สึกทึ่งในสิ่งที่พวกเขาเห็นและ ได้เป็นที่แนะนำ โดยไกด์ระหว่างทัวร์ซึ่งไปรอบป้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน
เราสามารถมองเห็นกำแพงขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบร่วมกันเพื่อต่อต้านการถ่ายภาพรวมถึงสิ่งก่อสร้างที่ซ่อนอยู่ภายในป้อมปราการ: โบสถ์, คลังแสง, พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กและชุดอาวุธที่ใช้ในช่วงเวลานั้น
ผู้ที่จะเข้าชมต้องเข้าผ่านประตูขนาดใหญ่ และเสียค่าเข้าคนละ 40 เปโซ ซึ่งถือว่าถูกมาก
เมื่อก้าวเข้าผ่านประตู เราสามารถจิตนาการได้ว่า ประตูขนาดใหญ่ สมัยที่สร้างสงคราม
เป็นการยากมากที่จะเข้าไปด้านในได้
วันนี้นักโบราณคดีและนักศึกษามานุษยวิทยาจากทั้งกรม Rocha หาตัวอย่างพิเศษสำหรับการออกนอกสถานที่ของพวกเขาในพื้นที่นี้
จากภูเขาของชาวพื้นเมือง (ซึ่งเคยเป็นที่ซึ่งชาวพื้นเมืองเคยฝังศพบรรพบุรุษของพวกเขาพร้อมกับข้าวของ) ไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ ที่ถูกลืมไปในอดีต

หากทุกคนมีโอกาสอย่าลืมแวะชมนะคะ


























By Merry Happy Fashion